วันอังคารที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ดอกไม้ที่สวยที่สุด

                                               

1.ดอกซากุระ



ซากุระ (ภาษาญี่ปุ่น : 桜 หรือ 櫻) เป็นดอกไม้ประจำชาติของญี่ปุ่น มีถิ่นกำเนิดในจีนตอนใต้ เกาะไต้หวัน หมู่เกาะโอกินาวา ญี่ปุ่น ลักษณะเด่นของซากุระก็คือ เมื่อร่วง จะร่วงพร้อมกันหมด ซากุระจึงเป็นสัญลักษณ์ของเลือดทหารและซามูไรของญี่ปุ่น


2.ดอกพุทธรักษา



3.ดอกปักษาสวรรค์

4.ดอกไฮเดรนเยีย

5.คาลล่า ลิลลี่ หรือCalla Lily

6.ดอกซูซานตาดำหรือBlack Eyed Susan












7.ดอกโลหิตแห่งหัวใจหรือดอกหทัยหยาดทิพย์

หรือBleeding Heart

8.ดอกระฆังหรือBlue Bells

9.ดอกผกากรองหรือLantana

10.ดอกกุหลาบ

อาหารไทยต้นตำหรับ

ต้มยำกุ้ง

                                                    อาหารไทย : ต้มยำกุ้ง
ส่วนผสม
กุ้งขนาดกลาง 12 ตัว (ปอกเปลือก, ทำความสะอาด)
เห็ดฟาง 10 อัน
 ตะไคร้ 1 กำ  (ทุบให้แหลกและหั่นเป็นท่อนยาวประมาณ 2")
 ใบมะกรูด 3 ใบ
 เกลือ 1 ช้อนชา
 น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
 น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
 พริกขี้หนู 6 เม็ด (ทุบพอให้แหลก)
 น้ำสะอาด 4 ถ้วยตวง
 ผักชี 1/2 ถ้วยตวง (หั่นหยาบ)
วิธีทำ
1.ปอกเปลือกกุ้งออก เหลือหางไว้ (เพื่อความสวยงามเมื่อปรุงเสร็จ) จากนั้นหั่นด้านหลังกุ้งเพื่อเอาเส้นเลือดสีดำออก เสร็จแล้วนำเห็ดฟางไปล้างให้สะอาด หั่นเป็น 4 ส่วนและนำไปผึ่งให้แห้ง
2. นำน้ำเปล่าไปต้มในหม้อ จากนั้นใส่ตะไคร้, ใบมะกรูด และกุ้ง เมื่อสีกุ้งเริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพู (เริ่มสุก) ใส่เห็ดที่หั่นไว้แล้วและเกลือ
 3. หลังจากน้ำเดือดแล้วปิดไฟ และ้นำหม้อออกมาจากเตา ปรุงรสด้วยน้ำปลา, น้ำมะนาว และพริกขี้หนู เมื่อปรุงรสเสร็จตักเสิรฟในถ้วย ตกแต่งด้วยผักชีและเสิรฟทันที พร้อมด้วยข้าวสวยร้อนๆ

ผัดไทยกุ้งสด

                                                      อาหารไทย : ผัดไทยกุ้งสด
ส่วนผสม

* กุ้งสด 12 ตัว (ทำความสะอาด, ปอกเปลือก)
* เส้นจันท์ (หรือเส้นเล็ก) 90 กรัม
* ถั่วงอก 50 กรัม
* ใบกุ้ยช่าย 2 ช้อนโต๊ะ (หั่นให้มีความยาวประมาณ 1 นิ้ว)
* น้ำปลา 6 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมันหอย 6 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมะขาม 3 ช้อนโต๊ะ (หรือน้ำส้มสายชู)
* น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
* หัวไชโป้ว 2 ช้อนโต๊ะ
* ถั่วลิสงบด 2 ช้อนโต๊ะ
* ไข่ 2 ฟอง
* พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ 
* มะนาว 1/2 ลูก
 วิธีทำ
1. กรณีใช้เส้นชนิดแห้ง ให้นำเส้นไปแช่น้ำธรรมดา (อุณหภูมิห้อง) ประมาณ 30 นาที
2. ตั้งกระทะบนไฟปานกลาง ใส่กุ้งลงไปผัดจนเริ่มสุก ตอกใส่ไข่ลงไปในกระทะ ใช้ตะหลิวเขี่ยให้ไข่แดงแตก พอไข่เริ่มสุก ใส่เส้น, น้ำตาล, ถั่วลิสงและ หัวไชโป้ว ผัดจนเส้นเริ่มนุ่มและเครื่องปรุงทั้งหมดผสมกันทั่ว
3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา, น้ำมันหอย และน้ำมะขาม (หรือน้ำส้มสายชู) ใส่ถั่วงอก, หัวไชโป้วและพริกป่น (ถ้าชอบรสจัด) ผัดอย่างรวดเร็วให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันทั่ว ตักใส่จาน จัดแต่งด้วยถั่วงอกสด, พริกป่น, และมะนาว ข้างจาน ควรเสิร์ฟขณะยังร้อน

ยำใหญ่


ส่วนผสม

  • เนื้อหมูสันใน ตับหมู อย่างละ 100 กรัม
  • เนื้ออกไก่ 100 กรัม หัวใจหมู 1 อัน
  • กุ้งแชบ๊วย เห็ดหูดำ อย่างละ 100 กรัม
  • ปลาหมึกแห้งปิ้งฉีกเป็นเส้น 1/4 ถ้วย
  • หนังหมูต้มหั่นฝอย 1 ถ้วย
  • ไข่ไก่ต้มสุกหั่นเสี้ยว 5 ฟอง
  • แตงร้านหั่นแฉลบบางเอาแต่เนื้อ 2 ถ้วย
  • หัวไชเท้าหั่นแฉลบบาง 1 หัว
  • ต้นหอมหั่นท่อนยาว 1 นิ้ว 1/2 ถ้วย
  • ผักชีเด็ดเป็นใบ 1 ต้น
  • ก้านขึ้นฉ่ายหั่นท่อนยาว 1 นิ้ว 1/2 ถ้วย
  • พริกชี้ฟ้าแดงหั่นฝอย 1 เม็ด
  • รกผักชี 2 ราก
  • พริกชี้ฟ้าเหลืองหั่นชิ้นเล็ก 3 เม็ด
  • วุ้นเส้นแช่น้ำให้นิ่มตัดท่อนสั้น 1/2 ถ้วย
  • กระเทียมดองซอย 2 หัว
  • กระเทียม 8 กลีบ กระเทียมเจียว 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 6 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำส้มสายชู 1/2 ถ้วย

วิธีทำ

  • ล้างเนื้อหมู เนื้อไก่ ตับหมู ลวกทีละอย่างในน้ำเดือดให้สุก หั่นเป็นชิ้นบาง จัดใส่จาน
  • ล้างหัวใจหมู ผ่าครึ่งเอาก้อนเลือดออก ล้างกุ้ง แกะเปลือก เด็ดหัวไว้หาง ผ่าหลัง ดึงเส้นดำออก ลวกให้สุก โดยลวกทีละอย่าง หั่นหัวใจเป็นชิ้นบาง จัดหัวใจ กุ้งลวกด ใส่จานเนื้อหมู เนื้อไก่และตับหมู
  • ล้างเห็ดหูหนู ตัดโคนออก หั่นชิ้น ลวกในน้ำเดือดพอสุก ตักขึ้นผ่านน้ำเย็น
  • คั้นหัวไชเท้ากับเกลือป่น 2 ช้อนโต๊ะให้หายเผ็ด ล้างน้ำ สงขึ้น พักไว้
  • โขลกรากผักชี กระเทียม พริกชี้ฟ้าเหลืองให้ละเอียด ผสมกับน้ำปลา น้ำตาล น้ำส้มสายชู เคี่ยวไฟอ่อน ยกลง ทิ้งไว้ให้เย็น ใส่น้ำมะนาว คนพอทั่วเป็นน้ำยำ
  • ใส่เนื้อสัตว์ที่หั่นไว้ลงในอ่างผสม ใส่เห็ดหูหนู เนื้อแตงร้าน หัวไชเท้า ต้นหอม ก้านขึ้นฉ่าย กระเทียมดอง ปลาหมึกเส้น ลวกวุ้นเส้น หนังหมูใส่ ใส่น้ำยำ เคล้าเบาๆ ให้เข้ากัน ชิมรสชาติให้ถูกใจ
  • ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยใบผักชี พริกชี้ฟ้าแดง กระเทียมเจียว วางไข่ต้ม เสิร์ฟ

น้ำพริกปลาทู

น้ำพริกกะปิ + ผักสด
ส่วนผสม

* ปลาทู 2 ตัว
* กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
* กุ้งแห้ง 2 ช้อนโต๊ะ
* หอมแดงปอกเปลือก 3 ลูก
* กระเทียมปอกเปลือก 3 ลูก
* พริก 10 - 15 เม็ด (ปรับเพิ่ม/ลดตามต้องการ)
* น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำตาล 1/2 ช้อนชา
* ผักสด หรือ ผักนึ่ง (กะหล่ำปลี, แตงกวา, ผักกาดขาว, มะเขือเทศ, ถั่วฝักยาว, อื่นๆ)


วิธีทำ
1. ใส่น้ำมันลงในกระทะและนำไปตั้งไฟร้อนปานกลาง นำปลาทูลงไปทอดจนเหลืองและสุก จึงนำออกมาสะเด็ดน้ำมัน
2. ใส่หอมแดง, พริก, กระเทียมลงในครก (หรือเครื่องปั่นอเนกประสงค์) โขลกจนกระทั่งเข้ากันดี
3. เติมกุ้งแห้ง, กะปิ, น้ำปลา, น้ำมะนาวและน้ำตาล โขลก (หรือปั่น) จนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี
4. ตักใส่ถ้วยน้ำพริก เสริฟพร้อมปลาทูทอดและผักสด (หรือผักนึ่ง)  

วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เค้กแสนอร่อย

Sponge cake 



 สปองค์เค้กสูตร 1 
    ไข่ไก่ 280 กรัม 
   น้ำตาลทราย 180 กรัม   
แป้งเค้ก ร่อนแล้ว 180กรัม   
เนยสดละลาย 60 กรัม
 และกลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
สปองค์เค้กสูตรที่สอง 
   ไข่ไก่ 5 ฟอง
 ไข่แดง 2 ฟอง
น้ำตาลทราย 170 กรัม 
แป้งเค้ก ร่อนแล้ว 130 กรัม       
 แป้งข้าวโพด 30 กรัม
น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
นมสด 3 ช้อนโต๊ะ  ในสูตรนี้หากต้องการเปลี่ยนเป็นรสช็อคโกแลต ก้อให้ตัดแป้งข้าวโพดออก แล้วแทนที่ด้วยผงโกโก้ในปริมาณที่เท่ากันครับ

วิธีการทำ

   เริ่มต้นด้วยการเปิดเตาอบก่อนเลยครับ ตั้งอุณหภูมิที่  180 องศาเซลเซียส ควรจะเปิดเตาให้ร้อนก่อนนะครับ ไม่ใช่ตีเค้กเสร็จแล้วมารอเตาร้อน อย่างนั้นขนมยุบแน่นอนครับ เสร็จแล้วมาเตรียมพิมพ์เค้กกัน

 ให้ทาไขมันเนย จะเป็นเนยขาวหรือเนยสดก็ได้ครับ ให้ทั่วพิมพ์ทั้งก้นพิมพ์และขอบข้าง จากนั้นให้ใช้แป้งลงไปกลอกทั่วพิมพ์ ให้แป้งเคลือบเกาะติดภายในพิมพ์จนหมดนะครับ ไม่งั้นอบเค้กมาสวยๆ มาตายตอนจบคือ เคาะเค้กไม่ออก หรือไม่ก็เคาะออกมาบางส่วน
นำไข่ไก่ลงไปตีพร้อมกับน้ำตาลทรายครับ ใช้หัวตีตะกร้อตีนะครับ เพื่อให้อากาศเข้าไปผสมกับไข่ไก่ ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณ 7-15 นาที แล้วแต่กำลังของเครื่องตีครับ แต่ถ้าใช้มือ ก็ประมาณ 20 นาทีเท่านั้นเอง

บางท่านอาจจะไม่สะดวกที่ จะนั่งจับเวลา ก็อาศัยสังเกตเอาครับ เมื่อไข่ไก่ฟูเต็มที่แล้วจะมีลักษณะนี้ครับ ขั้นนี้เค้าเรียกว่า Ribbon Stage  ส่วนผสมจะมีลักษณะขาวข้นเป็นครีม

ดูให้ชัดๆอีกครับ ส่วนผสมจะเปลี่ยนจากสีไข่ไก่ไปเป็นสีขาวครีม มีลักษณะข้นจนสามารถลากเป็นเส้นได้ ตรงนี้สำคัญมากครับ เพราะถ้าตีไม่ถึงจุดนี้ โอกาสเค้กยุบมีสูงมาก แต่หากตีมากเกินไปก็มีโอกาสยุบได้เช่นกัน เปรียบเหมือนลูกโป่งที่อัดอากาศเข้าไปเต็มที่แล้ว ไข่ไก่ก็เช่นกันครับเมื่อมันขยายตัวมากจนอุ้มอากาศไม่ไหวแล้วฟองอากาศที่ เกิดขึ้นก็จะแตกตัวออกแล้ว ส่วนผสมจะแห้งเหมือนโฟมฉีดผม ไม่เก็บกักอากาศอีกต่อไปแล้วครับ

เมื่อได้ Ribbon Stage แล้วให้หยุดตีเลยนะครับ ให้ยกหัวตีตะกร้อออกแล้วใช้ไม้พายไม้หรือไม้พายพลาสติกในการตะล่อมแป้งลงไป

ขั้นตอนนี้ก็สำคัญครับ เทคนิคการตะล่อมแป้งหรือ ที่ภาษาเบเกอรี่เรียก Folding คือ ค่อยๆใส่แป้งเค้กลงไปทีละน้อย ใช้ไม้พายค่อยๆตักส่วนผสมไข่มากลบแป้ง แล้วค่อยวนไปรอบๆอ่างผสม โดยตะล่อมรอบๆแล้ว วนไปกลับไปตะล่อมตรงกลางอ่าง เพื่อให้แป้งเค้กแตกตัวออกผสมกับไข่ ตรงนี้ต้องทำอย่างเบามือครับแล้วต้องคอยสังเกตว่ายังมีเม็ดแป้งที่ยังไม่แตก ตัวผสมกับไข่หรือไม่ หากยังมีเหลืออยู่ต้องทำให้เม็ดแป้งนั้นแตกตัวออก

ในขั้นตอนตะล่อมแป้ง หากเรารู้สึกว่าส่วนผสมของเราค่อนข้างแห้งก็ค่อยๆหยอดเนยละลาย หรือ นมสดผสมกับน้ำมันลงไปผสมสลับกับแป้งได้ครับ แต่ พึงระวังอุณหภูมิของเนยละลายด้วยครับ ไม่ควรจะร้อนจัด เพราะจะทำให้อากาศที่อยู่ในไข่แตกตัวออกได้ เค้กยุบอีกครับ
เมื่อเราผสมเนยละลายหรือ นมสด+น้ำมันพืชลงไปแล้ว ต้องคนให้ดีๆนะครับ อย่าให้เนยหรือนมสดไปกองอยู่ก้นอ่างล่ะ นี่ก็เป็นเหตุให้ขนมเค้กเรากลายเป็นขนมเข่งได้เช่นกันครับ จากนั้นก็เทส่วนผสมเค้กลงในพิมพ์ นำเข้าอบทันทีเลยครับ จะตั้งทิ้งไว้นานไม่ได้ครับ ยุบอีกเหมือนกัน ใช้เวลาอบ 30 นาทีพอดีครับ ลองเช็คว่าเค้กสุกดีหรือไม่ โดยใช้ไม้จิ้มฟัน ( ยังไม่ใช้แคะฟันทีนะจ๊ะ) จิ้มตรงกลางเนื้อเค้ก หากมีเศษเค้กหรือคราบเค้กแฉะติดออกมา แสดงว่ายังไม่สุก หากจิ้มแล้วไม่มีเศษเค้กติดออกมา ก็แสดงว่าสุกแล้วครับ
ก่อนเคาะเค้กออกจากพิมพ์ให้ เราเขย่าพิมพ์เล็กน้อยนะครับ เพื่อให้แน่ใจว่าเค้กไม่ติดพิมพ์ คว่ำเค้กลงบนตะแกรงลวด พักให้เย็นก่อนนำไปใช้งานต่อไป ไม่ควรทิ้งเค้กให้เย็นในพิมพ์เป็นอันขาดครับ เพราะจะทำให้เค้กของท่าน หด หด หด จนเหลือนิดเดียวแถมยังกระด้างอีกต่างหากนะครับ


ช็อคโกแลตลาวา  Chocolate Lava Cake


 

วัตถุดิบ

1. แป้งสาลีอเนกซ์ประสงค์ ½ ถ้วย
2. ช็อคโกแลตแท่ง 120 กรัม
3. ไข่ไก่ 4 ฟอง
4. น้ำตาลทราย ½ ถ้วย
5. เนยเค็ม 120 กรัม
6. เนยขาว 2 ช้อนโต๊ะ  (เอาไว้ทาพิมพ์)
7. ไอซ์ซิ่ง 2 ช้อนโต๊ะ  (เอาไว้โรยตกแต่ง)
8. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ (เอาไว้เคลือบพิมพ์)
9. ไอศกรีมวนิลา 1 ลูก

 วิธีการทำ
  1.นำช็อคโกแลตไปตุ๋นให้ละลาย จากนั้นเติมเนยเค็มลงไป คนให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ พักไว้ให้เย็น
2.ผสมไข่ไก่ ,น้ำตาลทราย ตีให้ขึ้นฟูและน้ำตาลละลายจนหมด
3.ค่อยๆเติมแป้งลงไปผสมให้เข้ากัน จากนั้นจึงค่อยเติมช็อคโกแลตตุ๋นลงไปทีละน้อย จะผสมเป็นเนื้อเดียวกัน
4.ทาเนยขาวให้ทั่วพิมพ์ และเคลือบด้านในพิมพ์ด้วยน้ำตาลทราย
5.หยอดส่วนผสมลงพิมพ์ ¾ พิมพ์ นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 200 องศา. ใช้เวลาอบ 10 นาที
6.คว่ำถ้วยพิมพ์ใส่จาน แล้วแกะพิมพ์ออกมา โรยหน้าด้วยไอซ์ซิ่งใช้มีดตัดตัวช็อกโกแลตเล็กน้อยครึ่งนึง
เสริฟ์คู่ไอศกรีมวนิลาเป็นอันเสร็จ

เค้กสตอเบอรี่ (Strawberry Cake )



วัตถุดิบ
ส่วนผสมตัวเค้ก
เนยจืดหั่นเต๋า 100 กรัม
ไข่ไก่ 2 ฟอง
แป้งเค้ก 100 กรัม
เกลือ ½ ช้อนชา
ผงฟู 1  ช้อนชา
ไอซ์ซิ่ง 80 กรัม
นมสด ½ ถ้วย
กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา
ส่วนผสมแต่งหน้าเค้กวิปปิ้งครีม 300 มล.
ไอซ์ซิ่ง 70 กรัม
เกลือ ½ ช้อนชา
กลิ่นวนิลา 1  ช้อนชา
สตอเบอรี่ 1 ถ้วย (หั่นสไลด์)
สตอเบอรี่ 5 ลูก
วิธีการทำ
1.ร่อนแป้ง , เกลือ , ผงฟู เข้าด้วยกัน พักไว้ก่อน
2.ตีเนยให้ขึ้นฟู ค่อยๆเติมไอซ์ซิ่งลงไป ตีด้วยความเร็วสูงสุด ประมาณ 5 นาที
3.เติมไข่ไก่ลงไปทีละ 1 ฟอง ตีให้เข้ากันดีแล้วจึงค่อยเติมกลิ่นวนิลาลงไป
4.ลดความเร็วลงต่ำสุด เติมแป้งที่ร่อนแล้วลงไปทีละน้อย สลับกับเติมนมทีละะน้อย เติมจนนมและแป้งหมด
5.ทาเนยขาวในพิมพ์กรุกระดาษไขให้ทั่วพิมพ์เค้ก เทเค้กลงไปเกลี่ยหน้าให้เนียน
6.นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศา 30 นาที
7.ตี วิปปิ้งครีมด้วยความเร็วสูงสุดจนขึ้นฟู (ต้องนำวิปปิ้งครีมไปแช่ในช่องฟรีซ 30 นาที ก่อนจะนำมาตีให้ขึ้นฟู ไม่อย่างนั้นจะตีไม่ขึ้น)
8.เติมเกลือ และไอซ์ซิ่ง , กลิ่นวนิลาลงไป เมื่อผสมจนครีมขึ้นฟูดีแล้ว นำเข้าตู้เย็นพักไว้ก่อน (ถ้าอยู่ในอุณหภูมิห้อง วิปปิ้งครีมจะยุบตัว)
9.เมื่อเค้กสุกดีแล้ว ดึงกระดาษไขออกคว่ำหน้าเค้กลงบนตะแกรงและพักไว้
10.ตัดเค้กแบ่งเป็น 2 ชั้น ปาดครีมเค้กบางๆบนเค้กชั้นที่ 1 จัดเรียงสตอเบอรี่
สไลด์ลงไปให้ทั่วเค้ก
11.วางเค้กชั้นที่ 2 ลงไป ปาดครีมให้ทั่วหน้าเค้ก บีบครีมด้วยหัวบีบรูปดาว รอบๆเค้ก ตกแต่งด้วยสตอเบอรี่สด เป็นอันเสร็จ

เค้กชาเขียว Green Tea Cake



ส่วนผสมตัวเค้ก

แป้งเค้ก 200 กรัม
ผงฟู 1 ช้อนชา
ไอซ์ซิ่ง 160 กรัม
ไข่ไก่ 4 ฟอง
เนยละลาย 240 กรัม
โอวาเล็ต 1 ช้อนโต๊ะ
นมสด1 ถ้วย
เกลือ 1 ช้อนชา
ผงชาเขียว 2 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมแต่งหน้าเค้ก

ชาเขียวละลายน้ำ (น้ำเย็นจัด ½ ถ้วย + ผงชาเขียว 1ช้อนดต๊ะ.)
น้ำเชื่อม (เกลือ 1 ชช. + น้ำตาลทราย 80 กรัม + น้ำ 50 มล.)
วิปปิ้งครีม 100 มล.
นมข้นหวาน ½ ถ้วย
เนยจืดหั่นเต๋า 200 กรัม

วิธีการทำ

1.ร่อนแป้ง ,ไอซ์ซิ่ง , ผงชาเขียว , เกลือ , ผงฟู เข้าด้วยกัน พักไว้ก่อน
2.นำไข่ไก่ ,นมสด , โอวาเล็ต , แป้งที่ร่อนแล้ว ตีรวมกันด้วยความเร็วสูงสุด 5 นาที
3.ลดความเร็วลงต่ำสูง เติมเนยละลายลงไปทีละน้อย
4.ทาเนยขาวในพิมพ์กรุกระดาษไขให้ทั่วพิมพ์เค้ก ตะล่อมแป้งเค้กเบาๆในทิศทางเดียวกัน เทเค้กลงไปเกลี่ยหน้าให้เนียน นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศา 40 นาที
5.ตีเนยให้ขื้นฟู ตามด้วยวิปปิ้งครีมที่แช่จนเย็นจัดลงไปทีละน้อย เติมชาเขียวที่ละลายน้ำไว้แล้ว ตามด้วยนมข้นหวาน และสุดท้ายเติมน้ำเชื่อมลงไป
6. เมื่อเค้กสุกดีแล้ว ดึงกระดาษไขออกคว่ำหน้าเค้กลงบนตะแกรงและพักไว้
ให้เค้กเย็นตัวดีเสียก่อน
7.ใช้ พิมพ์รูปหัวใจตัดเค้กออกมา 2 ชิ้น บีบครีมเค้กลงบนเค้กชิ้นที่ 1 วางเค้กชิ้นที่ 2 ลงไป บีบครีมบนหน้าเค้กอีกชั้นนึง โรยหน้าเค้กด้วยผงชาเขียว แต่งหน้าด้วยใบสาระแหน่ 1 ใบ เป็นอันเสร็จ

ขนมไทยน่าอร่อย

วุ้นหน้ากะทิ


ส่วนผสม

วุ้น ¼ กำ
แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ
ใบเตย 3 ใบ
มะพร้าวขูด ½ กก.
น้ำตาลทราย ½ กก.
ดินสอพอง 3 แผ่น
เกลือเล็กน้อย

วิธีทำวุ้นหน้ากะทิ

1. นำวุ้นมาล้างด้วยดินสอพองให้สะอาด พอเสร็จแล้วนำกระทะทองเหลืองตั้งไฟ ใส่น้ำลงไป นำวุ้นลงเคี่ยว
2. ล้างใบเตยให้สะอาดหั่นเป็นชิ้นฝอยๆ โขลกให้ละเอียดเติมน้ำนิดหน่อย คั้นเอาแต่น้ำใส่ลงในกระทะวุ้น
3. นำน้ำตาลทรายใส่ในกระทะวุ้นเคี่ยวให้ละลาย แล้วเทลงถาดพักไว้ เทลงถาดวุ้นที่พักไว้
4. คั้นกะทินวดกับแป้งข้าวเจ้า เติมเกลือป่นพอเค็ม เอาวุ้นที่แบ่งไว้ผสมกับกะทิและแป้ง ลงกระทะตั้งไฟกวนให้สุก เทใส่ถาด
5. วุ้นที่เทใส่ถาดแล้ว เกลี่ยหน้าให้เท่ากัน ทิ้งไว้ให้เย็น

ขนมกลีบลำดวน


ส่วนผสม ขนมกลีบลำดวน

แป้งสาลี             5 ถ้วยตวง
น้ำตาลป่น         2 1/2  ถ้วยตวง
น้ำมันพืช         1 1/2  ถ้วยตวง
ฟักเชื่อมสีแดง

วิธีทำ ขนมกลีบลำดวน

1. ผสมแป้งสาลีกับน้ำตาลป่นเข้าด้วยกัน  จึงเทน้ำมันลงในแป้งนวดเบา ๆ ให้เข้า กันดี  คลึงแป้งออกเป็นแท่งกลมยาว แล้วตัดเป็นท่อน ให้ท่อนหนึ่ง ๆ หนึ่ง เมื่อปั้นเป็นก้อนกลมจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางสักประมาณ     1 1/2   เซนติเมตร
2. ใช้มีดผ่าแต่ละก้อนออกเป็น 4 ส่วน ปั้นแต่ละส่วนให้ คล้ายกลีบดอกลำดวน เอาฟักหั่นชิ้นเล็กวางตรงกลางเหมือนเกษรโผล่แผลมอยู่ ปั้นเรียงให้เต็มถาดที่ทาน้ำมันไว้แล้ว
3. นำเข้าอบที่ 350 องศาฟาเรนไฮท์ ประมาณ 8-10 นาที ให้ได้สีนวล ๆ เหมือนดอกลำดวนจริง ๆ จึงนำออกจากเตา พักไว้ให้เย็นสนิทเสียก่อนจึงแซะใส่ขวดโหล
4. นำมาอบอีกครั้งด้วยดอกมะลิ กระดังงาหรือควันเทียนให้พอมีกลิ่น

ส่วนผสม ขนมกลีบลำดวน

แป้งสาลี             5 ถ้วยตวง
น้ำตาลป่น         2 1/2  ถ้วยตวง
น้ำมันพืช         1 1/2  ถ้วยตวง
ฟักเชื่อมสีแดง

วิธีทำ ขนมกลีบลำดวน

1. ผสมแป้งสาลีกับน้ำตาลป่นเข้าด้วยกัน  จึงเทน้ำมันลงในแป้งนวดเบา ๆ ให้เข้า กันดี  คลึงแป้งออกเป็นแท่งกลมยาว แล้วตัดเป็นท่อน ให้ท่อนหนึ่ง ๆ หนึ่ง เมื่อปั้นเป็นก้อนกลมจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางสักประมาณ     1 1/2   เซนติเมตร
2. ใช้มีดผ่าแต่ละก้อนออกเป็น 4 ส่วน ปั้นแต่ละส่วนให้ คล้ายกลีบดอกลำดวน เอาฟักหั่นชิ้นเล็กวางตรงกลางเหมือนเกษรโผล่แผลมอยู่ ปั้นเรียงให้เต็มถาดที่ทาน้ำมันไว้แล้ว
3. นำเข้าอบที่ 350 องศาฟาเรนไฮท์ ประมาณ 8-10 นาที ให้ได้สีนวล ๆ เหมือนดอกลำดวนจริง ๆ จึงนำออกจากเตา พักไว้ให้เย็นสนิทเสียก่อนจึงแซะใส่ขวดโหล
4. นำมาอบอีกครั้งด้วยดอกมะลิ กระดังงาหรือควันเทียนให้พอมีกลิ่น

ส่วนผสม ขนมกลีบลำดวน

แป้งสาลี             5 ถ้วยตวง
น้ำตาลป่น         2 1/2  ถ้วยตวง
น้ำมันพืช         1 1/2  ถ้วยตวง
ฟักเชื่อมสีแดง

วิธีทำ ขนมกลีบลำดวน

1. ผสมแป้งสาลีกับน้ำตาลป่นเข้าด้วยกัน  จึงเทน้ำมันลงในแป้งนวดเบา ๆ ให้เข้า กันดี  คลึงแป้งออกเป็นแท่งกลมยาว แล้วตัดเป็นท่อน ให้ท่อนหนึ่ง ๆ หนึ่ง เมื่อปั้นเป็นก้อนกลมจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางสักประมาณ     1 1/2   เซนติเมตร
2. ใช้มีดผ่าแต่ละก้อนออกเป็น 4 ส่วน ปั้นแต่ละส่วนให้ คล้ายกลีบดอกลำดวน เอาฟักหั่นชิ้นเล็กวางตรงกลางเหมือนเกษรโผล่แผลมอยู่ ปั้นเรียงให้เต็มถาดที่ทาน้ำมันไว้แล้ว
3. นำเข้าอบที่ 350 องศาฟาเรนไฮท์ ประมาณ 8-10 นาที ให้ได้สีนวล ๆ เหมือนดอกลำดวนจริง ๆ จึงนำออกจากเตา พักไว้ให้เย็นสนิทเสียก่อนจึงแซะใส่ขวดโหล
4. นำมาอบอีกครั้งด้วยดอกมะลิ กระดังงาหรือควันเทียนให้พอมีกลิ่น

ขนมเม็ดขนุน


ส่วนผสมขนมเม็ดขนุน

ถั่วเขียว 2 ลิตร (ไม่ให้แตกแช่น้ำ 1 คืน)
มะพร้าว 1 กก.
น้ำตาลปี๊บทราย 1 กก.
ไข่เป็ด 7 ฟอง
น้ำตาลปี๊บ 1 กก.

วิธีทำขนมเม็ดขนุน

1. นำถั่วเขียวไปโม่ให้ละเอียด พอได้แล้วเอากระทะทองเหลือง ตั้งไฟเทน้ำลงไปต้มให้เดือด
2. ใส่น้ำตาลปี๊บ ถั่วเขียว มะพร้าว เคี่ยวให้เดือดและกวนต่อจนเหนียวและแห้ง เสร็จแล้วยกลงพักไว้ให้เย็น ปั้นเป็นก้อนกลมยาวพักไว้ก่อน
3. นำกระทะทองเหลืองตั้งไฟ ผสมน้ำประมาณ 20 ถ้วย เทน้ำตาลลงไป คนให้ละลาย กรองด้วยผ้าขาวบางให้สะอาด เคี่ยวต่อจนน้ำตาลเหนียวจัด
4. ต่อยไข่เอาแต่ไข่แดง ตีให้แตก เอาเม็ดถั่วที่ปั้นไว้ลงชุบกับไข่แดง แล้วเอาลงเชื่อมให้สุก ทำอย่างนี้จนหมดถั่ว

ขนมฝอยทอง


ส่วนผสมขนมฝอยทอง

ไข่เป็ด 10 ฟอง
น้ำตาลทราย 4 ขีด
น้ำดอกไม้สด 4 ถ้วย

วิธีทำขนมฝอยทอง

1. ตั้งกระทะทองเหลืองใช้ไฟปานกลาง เทน้ำดอกไม้สดลงไปเทน้ำตาลทรายทั้งหมด
2. เคี่ยวน้ำตาลทรายละลายดีแล้วให้กรองน้ำหวาด้วยผ้าขาวบางใส่หม้อ จากนั้นจึงเทน้ำหวานใส่กระทะตั้งไฟอีกครั้ง
3. ตอกไข่ใส่ชาม หรือหม้อเล็กๆ คัดเอาแต่ไข่ขาวแยกออกไป ช้อนไข่แดงเอาไว้ ตีให้ละเอียดจนเนื้อฟู
4. ตักน้ำไข่แดงเทใส่กรวยทองเหลืองสำหรับทำฝอยทองโดยกะดูเมื่อน้ำเชื่อมข้นเป็นน้ำตาลแก่ นำแล้วจึงนำไข่แดงใส่เครื่องทำฝอยทอง แล้วโรยให้เป็นเส้นๆ
5. ใช้ไม้เล็กๆ ค่อยๆ ช้อนเส้นไข่มาจัดวางใส่ในถาดหรือจานรับประทานได้

ขนมผิง


ส่วนผสมขนมผิง

แป้งมัน 1 ถ้วย
กะทิ ½ ถ้วย
ไข่เป็ด 2 ฟอง
น้ำตาลทราย ½ ถ้วย

วิธีทำขนมผิง

1. เคี่ยวกะทิด้วยไฟอ่อน เติมน้ำตาลทรายลงเคี่ยวด้วยจนเป็นยางมะตูม
2. เก็บน้ำเชื่อมในข้อ 1 ใส่ตู้เย็นค้างคืนไว้ วันรุ่งขึ้นนำออกมาผสมกับไข่เป็ดที่คัดเอาแต่ไข่แดง
3. เติมแป้งมันลงไปทีละน้อยคนให้เข้ากัน
4. เอาน้ำมันทาถาดให้ทั่ว ปั้นแป้งเป็นก้อนกลมๆ เล็กๆ วางเรียงในถาดจนเต็ม นำไปอบจนสุกแล้วนำมาบรรจุใส่ขวดโหล อบควันเทียนอีกครั้ง

ขนมทองหยอด


ส่วนผสมขนมทองหยอด

แป้งหมี่ ½ กก.
ไข่เป็ด 20 ฟอง
น้ำตาลทราย 1 กก.
น้ำดอกไม้สด 8 ถ้วย

วิธีทำขนมทองหยอด

1. นำแป้งหมี่มานวดกับน้ำอุ่นนวดให้แป้งนิ่ม
2. ต่อยไข่เป็ดใส่ชาม คัดเอาแต่ไข่แดง
3. นำไข่แดงมาผสมกับแป้ง ตีๆ ยีๆ ให้ไข่แดงเข้ากันกับเนื้อแป้ง พักไว้
4. ตั้งกระทะทองเหลืองใส่น้ำดอกไม้สดลงไปตามด้วยน้ำตาลทรายคนให้เข้ากัน เคี่ยวต่อไปสักครู่เมื่อน้ำตาลทรายละลายเข้ากันดีแล้วให้ยกกระทะลง
5. เทน้ำหวานใส่หม้อกรองด้วยผ้าขาวบาง จากนั้นจึงนำน้ำหวานที่กรองด้วยผ้าขาวบางแล้วยกขึ้นตั้งไฟ เคี่ยวไปเรื่อยๆ
6. เมื่อน้ำหวานเริ่มเป็นน้ำเชื่อมแล้ว จึงใช้มือหยิกแป้งจัดเป็นลูกๆ ขนาดเท่าลูกไข่เล็กๆ หยอดลงไปในกระทะน้ำเชื่อมกะดูว่าแป้งเริ่มสุกก็ให้ตักใส่ถาดหรือจานรับประทานได้

มาเรียนทำอาหารกันเถอะ

Spaghetti

  • เครื่องปรุงและวัตถุดิบ

-เส้นสปาเก็ตตี้      
 -หมูสับหรือกุ้งหรือปลาหมึก    
  -ซอสมะเขือเทศ      
 -หัวหอมใหญ่
-มะเขือเทศ    
   -พริกไทยดำ      
 -ใบโอริกาโน่      
 -เกลือป่น    
  -น้ำตาล

  • วิธีการทำ

วิธีลวกเส้น

1. นำเส้นสปาเก็ตตี้ไปต้มน้ำเดือดประมาณ 10 นาที ในน้ำ    ใส่เกลือ 1 ช้อนชาและน้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ เพื่อไม่ให้เส้นติดกัน
2. นำเส้นขึ้นมาพักใส่จาน

วิธีทำซอส

1. นำหมู ลงใส่ในน้ำมัน จนสุก
2. ใส่มะเขือเทศ หัวหอมใหญ่ ผัดให้เข้ากัน
3. ใส่ซอสมะเขือเทศ พอประมาณ แล้วคน
4. ใส่พริกไทยดำ เกลือ และ ใบโอริกาโน่
5. ปรุงจนสุกแล้วตักซอสและเทลงบนเส้นสปาเก็ตตี้
6. โรยหน้าด้วยใบโอริกาโน่

Pizza


  • เครื่องปรุงและวัตถุดิบ

-แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ถ้วย      
 -ยีสต์ 1 ช้อนโต๊ะ    
 -น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ     
 -เกลือ 1/2 ช้อนชา
-น้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา    
   -เนยสด 50 กรัม      
-น้ำเปล่า
-น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ      
-หอมใหญ่สับละเอียด 1 หัว    
  -มะเขือเทศเข้มข้น 1 ถ้วยตวง    
  -น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
-เกลือป่น 2 ช้อนชา      
-พริกไทย 1/2 ช้อนชา      
-ออริกาโน (Oregano) 2 ช้อนชา

  • วิธีการทำ

วิธีทำ แผ่นแป้ง Pizza

1. ให้คุณผสม ยีสต์, น้ำตาล ในน้ำอุ่น คนให้น้ำตาลละลาย อย่าคนแรง
2. ให้ร่อนแป้งผสม กับเกลือ เตรียมไว้
3. หลังจากนั้นให้นำ ยีสต์ที่เตรียมไว้แล้ว มาผสมกับแป้ง และให้ใส่น้ำ, น้ำมันมะกอก, และเนยลงไป นวดให้เข้ากันกับแป้ง
4. การนวดแป้งจะใช้เวลาประมาณ 20 นาที แป้งถึงจะใช้ได้ เมื่อนวดเสร็จ ให้นำแป้งมาใส่พักไว้ในภาชนะก่อน พักไว้ประมาณ 1/2 ชั่วโมง
5. เมื่อครบกำหนด ให้นำออกมาทำเป็นแผ่น แล้วใช้ ส้อมแท้งให้เป็นรู เพื่อไล่อากาศ แล้วทาน้ำมันมะกอกลงบนแป้งเพียงเล็กน้อย เพื่อเตียมไว้ราดซอส และแต่หน้า Pizza ก่อนเข้าเตาอบ

วิธีทำ ซอส Pizza

1. ให้เทน้ำมันมะกอกบนกะทะ ใช้ไฟอ่อนๆ
2. พอน้ำมันร้อน ให้เอาหอมหัวใหญ่ที่สับละเอียดแล้วลงไปให้หอม แล้วใส่ส่วนผสมทุกอย่างลงไป ผัดให้ร้อน อย่าให้ไหม้ แค่นี้เป็นอันเสร็จ

Hamberger


ส่วนผสม แฮมเบอร์เกอร์

1. ขนมปังแฮมเบอร์เกอร์
2. ไส้แฮมเบอร์เกอร์
3. ผักกาดหอม
4. มะเขือเทศสีดา
5. หอมหัวใหญ่
5. มายองเนส
6. สลัดครีม
7. ซอสพริก
8. ซอสมะเขือเทศ
9. ชีส

ส่วนผสม ไส้แฮมเบอร์เกอร์

1. หมูบด 500 กรัม
2. หอมหัวใหญ่สับละเอียด 50 กรัม
3. กระเทียมสับละเอียด 1/2 ช้อนโต๊ะ
4. ไข่ไก่ 1 ฟอง
5. เกลือ 1 หยิบมือ
6. พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
7. ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
8. ผงปรุงรส 1/2 ช้อนโต๊ะ
9. น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
9. พลาสเล่ย์ 1 ช้อนโต๊ะ
10. ผงปาปริกา 1/2 ช้อนโต๊ะ
11. เกล็ดขนมปัง 1 ถ้วยตวง

วิธีทำ ไส้แฮมเบอร์เกอร์

1. นำหมูบดใส่ชามใหญ่ ตามด้วย น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ ผงปรุงรส 1/2 ช้อนโต๊ะ พริกไทย 1 ช้อนชา สามารถเติมได้ตามชอบ คลุกเคล้าให้เข้ากัน
2. ใช้หอมหัวใหญ่ปั่นละเอียด แล้วนำมาคลุกเคล้าให้เข้ากับหมูที่เตรียมไว้
3. ใส่พริกไทยป่น พลาสเล่ย์ ผงปาปริกา
4. ตอกไข่ ใส่ชามเครื่องปรุง คลุกให้เข้ากัน แล้วตามด้วย เกล็ดขนมปัง นวดจนกระทั่งหมูและเครื่องปรุงเหนียวเป็นเนื้อเดียวกัน
5. นำหมูไปทอดบนกระทะจนกระทั่งสุก  ถ้าต้องการให้หมูออกมากลมสวยเท่ากันแนะนำให้ใช้ที่ทอดไข่ดาวทรงกลมวางบนกระทะแล้วจึงวางหมูลงในวงกลมและกดให้แบน ถ้าอยากให้ไส้เบอร์เกอร์สุกทั่วถึงให้ใช้ฝาปิดระหว่างทอด

วิธีทำ แฮมเบอร์เกอร์

1. เตรียมขนมปัง ทาเนย และนำเข้าอบในเตาด้วยความร้อน 180 องศาC อบประมาณ 3 นาที พอหอมและเนยละลาย พักไว้
2. นำมายองเนสและสลัดครีมตีผสมกันจนกระทั่งเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
3. นำซอสมะเขือเทศและซอสพริกตีผสมกันจนกระทั่งเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
4.เตรียมมะเขือเทศ ผักสลัด หอมหัวใหญ่
5. ขั้นตอนสุดท้าย ประกอบร่างแฮมเบอร์เกอร์
เริ่มต้นด้วยขนมปังแฮมเบอร์เกอร์ที่อบ ผักกาดหอม 3 ใบ มะเขือเทศ หั่น ประมาณ 1 เซนติเมตร 3 ชิ้น
มายองเนส+สลัดครีม ที่ผสมแล้ว ไส้เบอร์เกอร์ที่ทอดสุกแล้ว ซอสมะเขือเทศ+ซอสพริก ที่ผสมแล้ว
ชีส 1 แผ่น นำขนมปังชิ้นบนปิดท้าย

พาสต้า


สิ่งที่ต้องเตรียม

พาสต้าแบบเกลียว 150 กรัม
ไส้กรอกรมควันหั่นแว่น 2 ชิ้น
ไข่ไก่ 2 ฟอง
หอมใหญ่ 1 หัว
พริกหวาน เขียว/เหลือง/แดง หั่นเต๋า อย่างละ 1/2 ลูก
แครอท 1/2 หัว
พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
ซีอิ้วขาว 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
ซอสมะเขือเทศ 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำพาสต้าผัดซอสมะเขือเทศ

- ก่อนอื่นต้องนำเส้นพาสต้าไปต้มก่อน
- จากนั้นนำกระทะใส่น้ำมันยกขึ้นตั้งไฟ พอร้อนใส่หอมใหญ่ลงไปผัดให้หอม ใส่ไส้กรอก แครอท และพริกหวาน ลงไปผัดให้เข้ากัน

- ใส่เส้นพาสต้าลงไปผัด ปรุงรสด้วย ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากัน

- ทำหลุมตรงกลางกระทะ ตอกไข่ใส่ลงไปทั้ง 2 ฟอง ยีๆ ให้ไข่พอแตก รอจนไข่ด้านล่างสุก แต่ด้านบนยังเละๆ อยู่ คนเบาๆ ให้เข้ากัน

- ใส่ซอสมะเขือเทศลงไป ผัดให้เข้ากัน ปิดไฟ ใส่พริกไทยป่นลงไป คนอีกครั้ง ทีนี้ก็ตักใส่จาน

แค่นี้ก็ได้พาสต้าผัดซอสมะเขือเทศจานใหญ่ๆ เอาไว้ทานแล้วค่ะ อร่อยและง่ายจนไม่มีอะไรจะง่ายไปกว่านี้แล้ว

มะกะโรนี


วัตถุดิบ

1. กุ้งสด ตามชอบ
2. เส้นมะกะโรนี 1 ถ้วย
3. หอมใหญ่ซอยบางๆ 1 หัว
4. มะเขือเทศหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ไว้ 2 ลูก
5. เนย (ใช้เนยสดชนิดจืดหรือเค็มก็ได้) 1 ช้อนโต๊ะ
6. ซอสมะเขือเทศ 1/2 ถ้วย
7. ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
8. พริกไทย 1/2 ช้อนชา
9. น้ำตาล เล็กน้อย
10. น้ำซุป 2 ช้อนโต๊ะ
12. เกลือ เล็กน้อย

ขั้นตอนการปรุง:

1. กุ้งแกะเปลือกโดยเหลือหางไว้ ผ่าหลังเอาเส้นดำออก แล้วลวกพอสุก
2. ต้มน้ำใส่เกลือป่นลงไปเล็กน้อย พอน้ำเดือด ใส่เส้นมะกะโรนีลงไปต้ม ต้มจนเส้นนุ่ม ตักขึ้นมาล้างในน้ำเย็น พักสะเด็ดน้ำไว้
3. ตั้งกระทะ ใส่เนยลงไป พอเนยละลาย ใส่หอมใหญ่และมะเขือลงไปผัดจนจนมะเขือเทศและหอมใหญ่สุกนิ่ม แล้วค่อยๆ เติมน้ำซุปลงไป
4. ใส่ซอสมะเขือเทศ ซอสปรุงรส พริกไทยผัด เกลือ ให้เข้ากันแล้วชิมรส ถ้ายังขาดหวานค่อยเติมน้ำตาลลงมา
5. เมื่อได้รสชาติที่ถูกใจแล้ว ใส่เส้นมะกะโรนี กุ้งลวกสุก ผัดให้เข้ากัน


-->